แกร๊ก!
ประตูห้องน้ำด้านในถูกปิดลงพร้อมลงกลอนเสร็จสิ้น นัมจุนดันให้แผ่นหลังผมติดประตูแล้วซุกใบหน้าลงมาตรงซอกคอของผม มือของเขากำลังแหวกเสื้อผมออกให้ไปกองอยู่ที่ข้อศอก ลิ้นร้อนๆของนัมจุนกำลังไล่เล็มไปทั่ว มันทั้งร้อนแรงและอ่อนโยนสมกับที่เป็นนัมจุน
นัมจุนของผม..
“อึก...อา….” ผมจะถือว่าพวกเรากำลังเมา ทั้งๆที่ความจริงแล้วผมยังเหลือสติครบถ้วน ยังเหลือความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เราตัดสินใจที่จะมองข้ามมัน แล้วปล่อยให้อารมณ์เตลิดออกไป ผมคิดถึงอ้อมกอดของเขา คิดถึงริมฝีปาก คิดถึงทุกสัมผัสที่นัมจุนเคยมอบให้ ที่ผ่านมายอมรับว่าตัวผมเองก็เป็นฝ่ายที่ไม่ค่อยมีเวลาให้เขา และตอนนี้ผมก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่าหลังจากผ่านพ้นคืนนี้ไปเขาจะไม่ใช่ของผม…
ย่า… มินยุนกิ ทำไมนายถึงเห็นแก่ตัวขนาดนี้กันนะ
“อา….” เสียงของผมตอนนี้เหมือนเสียงของพวกผู้หญิงในหนังผู้ใหญ่ที่นัมจุนชอบซ่อนไว้ในคอมพิวเตอร์ของเขาเลย ให้ตายเถอะ… แต่เหมือนนัมจุนจะชอบมัน ใบหน้าหล่อคมนั้นเลื่อนต่ำลงมา กดจมูกแล้วสูดหายใจเข้าแรงๆเหมือนต้องการเก็บทุกกลิ่นอายของผมไว้แทนการที่ไม่มีสิทธิ์ทำรอยตีตราเอาไว้ได้
“ฮื่อ….นัมจุนนา….” มืออุ่นของนัมจุนกำลังบีบเค้นอยู่บนสะโพกของผมก่อนที่เขาจะค่อยๆปลดหัวเข็มขัดและรูดซิบกางเกงลงมา เกี่ยวให้ขอบกางเกงตัวนอกร่นลงมาจนหลุดปลายเท้าของผม ในขณะเดียวสัมผัสวาบหวิวนั้นก็กำลังไล่วนอยู่ผมแผ่นอกจนผมรู้สึกว่าตัวอาจจะเผลอร้องออกไปเสียงดัง
“อื้อ...อา…” สัมผัสที่ลังให้รู้สึกเสียวซ่านเบาๆนั้นมันดี ดีเกินกว่าผมคิดไว้ อาจจะเพราะว่ามันก็หลายเดือนแล้วที่นัมจุนไม่ได้ทำแบบนี้ เราห่างหายเรื่องแบบนี้กันไปนานเกินไป เขาเคยพูดว่าความรักมันไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียงหรือการคบกันไม่ใช่เพราะว่าต้องการจะมีเซ็กส์
จริงๆแล้วนัมจุนก็แค่พูดให้ผมสบายใจแทนการบอกว่าไม่เป็นไรกับการที่ผมแทบไม่มีเวลาให้เขา การที่เขาเป็นคนรักที่ดีไม่ได้แปลว่าเขาไม่มีความต้องการ แค่เวลาที่ผมเติมเต็มความต้องการให้เขาไม่ได้นัมจุนก็ไม่เคยนอกใจผม
นัมจุนรักผม… เขากำลังสื่อมันผ่านตาคมๆคู่นั้น แววตาที่นัมจุนจ้องมามันไม่เคยโกหก แต่ครั้งนี้ผมกลับเลือกที่จะหลับตาหนีแล้วโน้มคอเขาลงมาให้เราได้จูบกันอีกครั้ง จูบที่นุ่มนวลและร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เราผละออกจากกันแล้วจูบกัน ลิ้นของนัมจุนที่ส่งเข้ามาให้ผมต้องดุดันกลับไปนั้นมันให้ความรู้สึกที่อ่อนหวาน และมันเป็นสัญญาณอย่างดี ...ว่าเราจะไม่หยุดและจะไม่มีอะไรมาสามารถขัดจังหวะพวกเรา
กลิ่นแอลกอฮอล์จากปากของนัมจุนมันคลุ้งขึ้นจมูกแต่กลับให้รู้สึกน่าหลงไหลอย่างประหลาด มืออุ่นที่เริ่มไล่ไปตามเรียวขาแล้วย้อนกลับมานวดคลึงอยู่ที่บั้นเอวนั้นมันให้สัมผัสที่ดีจนผมเผลอหลุดเสียงครางอื้ออึงอยู่ในลำคอ เราจูบกัน...ผละออก จูบกันแล้วผละออก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นัมจุนกำลังดึงให้ผมดำดึ่งลงไปเรื่อยๆ เหมือนทุกครั้งที่เรามีเซ็กซ์กัน
“เขาว่ากันว่า...จูบมีความหมายด้วยนะ” เจ้าตัวโตผละออกมาเล็กน้อย กระซิบเบาๆติดริมฝีปากก่อนจะกดมันลงมาแนบชิดอีกครั้งแล้วผละออก “ที่ปาก...หมายถึงผมรักคุณ”
ริมฝีปากอุ่นๆนั้นเลื่อนขึ้นไป นัมจุนกอดผมไว้แล้วกดจมูกลงไปในกลุ่มผมของผม ก่อนจะเลื่อนลงมาจูบเบาๆที่หน้าผาก
“เส้นผม...คือคิดถึง หน้าผากหมายถึงมิตรภาพของเรา”
“...น...นัมจุน..” ความรู้สึกวูบไหวแปลกๆที่ตีขึ้นมาพวกนี้ผมรู้สึกไม่ชอบมันเอาเสียเลย ผมกำลังรู้สึกเขิน… ทั้งๆที่มันควรจะเลยจุดนั้นมาแล้วแท้ๆ แต่แววตาอ่อนโยนของนัมจุนกำลังทำให้ผมตกหลุมรัก ทั้งน้ำเสียง ทั้งการกระทำ นัมจุนหัวเราะ ก่อนจะกดริมฝีปากลงที่แก้มของผมให้มีเสียงดังจุ๊บเบาๆ
“ที่แก้มหมายถึงคุณเป็นที่รักของผม…”
“...”
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ… ไม่เห็นมีอะไรน่าเขินเลย” นัมจุนหัวเราะอีกครั้งแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ก่อนที่จะจูบลงที่ปลายจมูกของผม “ตรงนี้หมายถึงคุณน่ารักมาก….”
“ย่า… พอแล้ว… อื้อ!” เขายังคงหัวเราะในแบบที่ผมเกลียด หัวเราะเเบบคนที่คุมเกมเอาไว้แล้วก่อนจะกดจูบหนักๆลงที่เปลือกตาทั้งสองข้างของผม แล้วเลื่อนไปจูบที่ใบหู
“เปลือกตาคือผมชื่นชมในตัวคุณ และใบหูคือคุณช่างน่าเย้ายวนใจ…”
“น...นัมจุน พอแล้ว”
“ยังไม่ครบเลย…. ยุนกิไม่ชอบหรอ”
“ป...ปล่าว…ไม่ได้ไม่ชอบ... คือมัน…” ผมเผลอเม้มปากเเน่น รู้สึกคิ้วกำลังขมวดเข้าหากันตอนมองหน้าเขา นัมจุนเลิกคิ้วแล้วมองกลับมาด้วยสายตาอ่อนโยนที่เหมือนช่วยเร่งความร้อนบนใบหน้าของผมให้ขึ้นสูงจนลามไปทั่วทั้งร่าง…
นัมจุนกำลังทำให้ผมเขิน… เขินแทบบ้า…
“ต่อนะ…”
“ดะ..เดี๋ยว ...ฮื่อ!” ริมฝีปากร้อยนั้นกดลงมาที่ต้นคอจนผมสะดุ้ง เลื่อนลงมากดจูบที่ต้นแขน และหน้าอก เขาทรุดตัวลงยืนด้วยเข่าทั้งสองข้าง แล้วคว้ามือของผมไปจูบเบาๆที่หลังมือ
“ต้นคอหมายถึงผมต้องการคุณ ที่แขนคือความเสน่ห์หา หลังมือคือความรักและเคารพ” นัมจุนเลื่อนริมฝีปากมาจูบที่ฝ่ามือของผม “ตรงนี้คือการวิงวอน”
“...อึก..” นัมจุนยังคงไม่หยุด เขามองผมด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและคลายความกังวล เหมือกำลังบอกผมว่าตรงนี้มีแค่เราสองคน ไม่ต้องกลัวอ่ะทั้งนั้น ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่น… ให้นึกแค่เขา… ผมกับเขา
“ที่สะโพก…. หมายถึงการผูกมัด…. แผ่นท้องตรงนี้ คือการหวนคืนมาเจอกันอีกครั้ง”
“...อือ….อ่ะ...อา…” ตั้งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ขาข้างหนึ่งของผมถูกยกขึ้นพาดบ่าของนัมจุนไว้และอันเดอร์แวร์สีอ่อนตัวนั้นถูกรั้งลงไปจนหลุดปลายเท้า เขาค่อยๆเลื่อนมือไปดึงถุงเท้าทั้งสองข้างของผมออก ริมฝีปากที่กดจูบลงที่หลังเท้าอย่างไม่นึกรังเกียจนั้นอ่อนโยนเหลือเกิน…
“จูบที่หลังเท้า… คือความจงรักและภักดี”
“...นัมจุน”
“ความภักดีในความรักทั้งหมดที่ยุนกิมีให้ฉัน…” นัมจุนเงยหน้าขึ้นมามองผม มองมาด้วยแววตาจริงจังกว่าครั้งไหน
“ต่อให้อยู่ด้วยกันไม่ได้… คนที่ฉันรักก็ยังคงเป็นยุนกิ”
“...อึก..…”
“ต่อให้ต้องห่างกันกันแค่ไหน คนที่ฉันรักก็คือยุนกิ” ผมรู้สึกถึงน้ำตาที่ไหลเรียกให้ยกมือขึ้นมาปาดมันออกไปลวกๆ คิมนัมจุนกำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าผม กำลังบอกรักผมอย่างไม่จบไม่สิ้น
“ต่อให้คนที่ฉันแต่งงานด้วยจะเป็นใคร… คนที่ฉันรักก็เป็นยุนกิ”
“อึก...ฮึก…” ผมกำลังร้องไห้… ผมได้ยินเสียงสะอื้นของตัวเอง ผมกำลังทรุดตัวลงไปนั่งแล้วกอดนัมจุนไว้ มือหนาคู่นั้นกำลังยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังของผมอย่างอ่อนโยน เป็นความอ่อนโยนที่บีบก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของผมให้ปวดไปหมด
นัมจุนกำลังย้ำ… ย้ำให้ผมรู้ว่าเรารักกันแค่ไหน และกำลังย้ำให้รู้ว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน
...เหมือนเตือนว่าหลังสิ้นสุดคืนนี้คือการจากลาที่แท้จริง
“ขอบคุณนะยุนกิ… ที่ไม่วิ่งหนีไปไหน” นัมจุนหัวเราะเสียงแหบก่อนจะกดจูบลงที่ใต้กกหูผมอีกครั้ง เขาจูบ จูบต่อไปเรื่อยๆ ทั้งหน้าผาก ทั้งขมับ แก้ม ลำคอ ไหปลาร้า แล้วก็หยุดที่การแลกจุมพิตที่ริมฝีปากของกันและกันอีกครั้ง แม้ว่าน้ำตาจะยังไม่แห้งไป นัมจุนก็จะยกมือขึ้นมาปาดมันออกให้ตลอด
กลายเป็นคนขี้แยไปซะแล้วยุนกิอา…
เสียงจูบ..เสียงริมฝีปากที่บดเบียดเคล้ากับเสียงน้ำลายของพวกเรายังอยู่ในห้องน้ำแคบๆที่มีแค่คนสองคน ไม่มีใครมาตรงนี้ มีแค่ผมกับนัมจุน
“ฮื่อ....” เสียงครางในลำคอดังขึ้นมาในขณะที่เรายังคงจูบกัน มือร้อนคู่นั้นไม่ได้วางอยู่บนหลังหรือกำลังลูบไล้อยู่ที่บั้นเอว มันกำลังนวดคลึงความอ่อนไหวที่เริ่มตื่นตัวตรงนั้น ส่วนมืออีกข้ากำลังหยอกล้ออยู่กับด้านหลัง
“น...นัมจุน… อื้อ!. อ๊ะ…” ผมรู้ตัวว่าเผลอจิกบ่ากว้างแน่นเกินไปจนกลัวว่าจะมีรอยอะไรรึเปล่า ความน่าอึดอัดที่จู่ๆก็แทรกเข้ามานั้นกำลังขยับ ความรู้สึกเจ็บจุกตีขึ้นมาพร้อมความเสียวซ่าจนต้องกัดปากเพื่อระบายอารมณ์กระสันพวกนั้นออก นัมจุนเพิ่มนิ้วเข้ามาอีกนิ้ว แล้วเริ่มขยับมันอีกครั้ง
“อ่ะ...อา...าา..” ผมซุกใบหน้าลงกับซอกคอที่เริ่มชื้นเหงื่อ แนบแก้มลงกับบ่า แล้วเริ่มครางอย่างแหบแห้งในขณะที่นัมจุนกำลังปรนเปรอให้ตัวผมเหมือนจะลุกเป็นไฟ
“เจ็บรึเปล่า…”
“ไม่...ไม่เป็นไร....อ๊ะ!...” นัมจุนหามันเจอเเล้ว… จุดสัมผัสที่เสียวซ่านจนอยากดิ้นหนี แต่ก็รู้สึกดีจนอยากขยับให้เขาได้สัมผัสมากกว่านี้เหมือนกัน
ผมไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองเคลิ้มกับสัมผัสวาบหวามพวกนั้นจนขาดสติ ผมยังควบคุมตัวเองได้ ผมรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นและยังอยากจดจำทุกอย่างไว้ ทุกสัมผัส ทุกคำพูด ให้ตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้ก็ยังไม่ไม่ลืม
ตอนนี้ผมไม่ใช่มินยุนกินักสแดงชื่อดังที่ทุดคนรู้จักเพียงมุมมองเดียว…
แต่ผมคือมินยุนกิของคิมนัมจุนที่เขารู้จักผมแทบจะทุกซอกทุกมุม นัมจุนที่เป็นเจ้าของรสจูบที่แตกต่างจากในละคร เจ้าของร่างกายที่ผมยอมให้สัมผัส… เจ้าของความรักที่ผมยินดีมอบให้
“เจ็บหน่อยนะ…” นัมจุนกระซิบแล้วจูบเบาๆที่ข้างขมับ ความอึดอัดเพียงเล็กน้อยถูกแทนที่ด้วยความร้อนรุ่มที่คับแน่น สะโพกที่ถูกยกขึ้นแล้วกดลงมา แรงเสียดสีที่รู้สึกเจ็บแสบตีขึ้นมาพร้อมกับความอึดอัดจนผมต้องกรีดร้องแล้วขยุ้มกลุ่มผมนุ่มนั้นเพื่อระบายมันออกมา ก่อนจะหายใจหนักๆเมื่อมันเข้าเข้าไปจนสุด
“อึก..อา…. นัมจุนนา….อ๊ะ! อื๊อ!..” นัมจุนเริ่มที่จะขยับสวนขึ้นในขณะเดียวกับที่สะโพกผมถูกยกแล้วกดลงมา มือที่กำลังนวดคลึงส่วนอ่อนไหว และริมฝีปากที่พรมจูบลงบนแผ่นอกเหมือนกำลังเขี้ยว ร่างกายของพวกเรากำลังประสานกันในความหมายที่ดูน่าอาย แต่มันเป็นอะไรที่ลึกซึ้งยามที่รู้สึกว่าพวกเราเป็นของกันและกัน
“...ฮะ...อ๊ะ!...อ๊า...อ…”
“..อา...ยุนกิยา…”
“อื้อ!...อ๊ะ… นัมจุน...อ๊า!!..” อารมณ์ของพวกเราสูงขึ้นและสูงขึ้นเรื่อยๆ ผมเชิ่ดใบหน้าขึ้นแล้วกรีดร้องออกมา เมื่อมันถึงจุดสูงสุดแล้วปลดปล่อยอออกมาในอุ้งมืออุ่นๆคู่นั้นในขณะที่สะโพกยังคงขยับ ในช่วงสุดท้ายในความพึ่งพอใจของเราทั้งคู่ นัมจุนโน้มคอผมลงไปจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้งเมื่อเขากำลังปลดปล่อยหยาดความรู้สึกพวกนั้นเข้ามาในตัวผม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น